วันพุธที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2553

สัตว์ในตำนาน

หลายคนอ่านนิยาย ดูหนังแล้วเคยเจอสัตว์ในตำนานมาบ้าง

แต่ไม่ค่อยรู้ว่ามัน มีความเป็นมายังไง

ประวัติเป็นไง วันนี้เลยเอามาฝาก ^^




Basilisk(บาซิลลิกซ์) (เจอใน แฮร์รี่ พอตเตอร์ภาค 2)
เป็นงูใหญ่ที่น่ากลัวและน่าสยดสยอง แค่มองผ่านเหยื่อก็ทำให้เหยื่อตายได้(คล้ายๆกับเมดูซานั่นล่ะค่ะ)



ได้มีนักเล่านิทานคนหนึ่งอธิบายไว้ว่าคล้ายๆกับ"งูที่มีมงกุฎสีทองเล็กๆบนหัว" (เป็นงั้นจริง คงจะน่ารักน่าดูลองวาดภาพออกมาดูสิ) ในยุคกลางมีผู้เชื่อว่ามันเป็นเพียงงูที่มีหัวเหมือนไก่ บางครั้งก็มีหัวเป็นคน

     บาซิลิกค์เกิดจากไข่ที่ออกมาจากพ่อไก่ระหว่างที่มีกลุ่มดาวสุนัข(ดาวซิริอัส)ปรากฏบนท้องฟ้า และได้คางคกเป็นผู้กกไข่

การมองเห็นบาซิลิกค์นั้นน่ากลัวสยดสยองมากถ้าสัตว์ใดก็ตามได้เพียงเห็นมันมองผ่านแม้แต่ทางกระจกก็อาจตายได้ทันทีเพราะความกลัววิธีเดียวที่จะฆ่ามันได้ก็คือ ต้องถือกระจกไว้ข้างหน้าตัวมันก่อนที่มันจะมองผ่านมา แล้วเมื่อมันมองมาในกระจกนั้นมันก็จะเห็นเงาตัวมันเองในกระจก และก็ตายทันที (เป็นความคิดดี! ง่ายๆแต่ได้ใจความ)

     มีบาซิลิกค์บางตำนานกล่าวว่ามีเขา หรือมีพังพอนด้วย 




เซเบอรัส  cerberus
 สุนัขสามหัว ที่คอยเฝ้าประตูนรกให้เฮเดสมีที่มาจากตำนานกรีก มีลักษณะเป็นสุนัขล่าเนื้อขนาดใหญ่ ขนสีดำขลับตาสีแดงเลือด มีนิสัยดุร้าย บ้าเลือดสามารถเข้าโจมตีทุกสิ่งที่เข้าใกล้ตัวมัน(นี่แหล่ะคือคุณสมบัติของยามที่ดีทำให้ไม่มีใครสามารถผ่านตัวมันไปได้ง่ายๆ)มีหางสามหางซึ่งมีลักษณะคล้ายมังกร มีพละกำลังมาหาศาลและรวดเร็วมาก


เนื่องจากหัวทั้งสามไม่สามารถหลับลงในเวลาเดียวกันได้หน้าที่หลักคือกันไม่ให้สิ่งที่ยังมีชีวิตเข้าไปในแดนของเฮเดสแต่วิธีที่จะผ่านไปได้โดยไม่เจ็บตัวก็มี คือทำให้มันหลับโดยการใส่มนตร์หรือผงยานอนหลับ(ที่มีฤทธิ์ชะงัด)ใส่ในอาหารแล้วล่อให้มันกิน(คล้ายหมาบ้านเนอะ)แต่ก็ไม่ค่อยได้ผลเท่าการให้เสียงเพลงกล่อมจากพิณหรือเครื่องดนตรีศักดิ์สิทธิ์ทำให้คล้อยหลับไป 






ครอกกาไทรส์ - Cockatrice

 ครอกกาไทรส์ เป็นสิ่งมีชีวิตที่ค่อนข้างเหมือนกับBasiliskไม่ว่าจะเป็นทางด้านต้นกำเนิดหรือเรื่องๆอื่นจนบางคนคิดว่าเป็นตัวเดียวกันซะอีก แต่ความจริงย่อมมีเพียงหนึ่งเดียวก็คือมันเป็นคนละตัวกันค่ะ!!

Cockatriceตัวนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะอยู่ระหว่าง"ไก่" และ "มังกร" แค่มันจ้องไปที่สิ่งมีชีวิตอื่นใดสิ่งมีชีวิตนั้นอันต้องกลายเป็นหินทีเดียวและที่แน่นอนคือมันเกิดออกมาจากไข่ของพ่อไก่!!! (หมายเหตุ:คงเกิดจากการแปรผันทางพันธุกรรม การกลายพันธุ์หรือความผิดพลาดทางด้านยีนส์, โครโมโซม ไม่กัมมันตภาพรังสีล่ะมั้ง~อันนี้ล้อเล่นนะคะ)

จุดเด่นที่ทำให้มันแตกต่างกะBasiliskจริงๆคือที่ผิวของมันจะไม่ปกคลุมด้วยเกล็ดตลอดทั้งตัวแบบ จะมีบางส่วนเป็นขนแบบไก่ลักษณะทางกายภาพทั่วไปค่อนข้างคล้ายไก่ยักษ์ มีปีกบริเวณด้านข้างของลำตัวมีจงอยปากยาว ตาคมแดงดุมีหางยาวงอกออกมาเหมือนมังกรหรืองู(บริเวณนี้จะไม่มีขนปกคลุมแต่จะเป็นเกล็ด) 




ไซคลอป์  - Cyclop




ไซคลอป์ ยักษ์ตาเดียว สูงใหญ่หุ่นบึกบึนตามลักษณะยักษ์ทั่วไปศีรษะล้าน(บ้างก็มีผมบ้างประปราย) มีตาอยู่กึ่งกลางเพียงข้างเดียวมีพละกำลังแข็งแรงมาก ดุร้าย มาจากทางเปอร์เซียอาศัยอยู่ในถ้ำบนเกาะที่ห่างไกลจากผืนดินอื่นๆ

    เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายก็จากเรื่องซินแบด เนื่องจากแล่นเรือไปไหนไม่ไป ดันไปติดเกาะที่อยู่ของไซคลอป์ซะได้นี
ไซคลอป์มีความสามารถด้านการตีเหล็ก




มังกร - Dragon

มังกร เป็นสัตว์ในตำนานทุกคนคงรู้จักกันหมดเพราะว่าพบในทุกตำนานไม่ว่าจะเป็นทางของยุโรป หรือเอเชียก็ตามมังกรเป็นสัญลักษณ์ของพลังอำนาจ ผู้ยิ่งใหญ่ ความเก่งกล้า

มังกรนั้นมีหลายชนิดแตกต่างไปตามความเชื่อของคนในแต่ละภูมิภาคของโลก(ของจริงๆไม่เหมือนที่กล่าวในแฮรรี่พอตเตอร์นะว่ามีเป็นสายพันธุ์ๆชื่อหรูๆนั้นน่ะอันนั้นเป็นจินตนาการของผู้ประพันธ์ที่แต่งขึ้นเอง)แต่โดยทั่วๆไปแล้วจะเห็นจุดเด่นได้อย่างหนึ่งคือต้องเป็นสัตว์(ออกไปทางสัตว์เลื้อยคลาน)ขนาดใหญ่ ที่มีร่างกายใหญ่โตมีพละกำลังมหาศาล และบางครั้งมีอำนาจเวทย์ประกอบด้วย(เอ่อ...... เช่นพ่นไฟมนตร์ดำ เรียกสายฟ้า ฯลฯ) และจุดเด่นที่สำคัญอีกอย่างคือมีปีกลักษณะคล้ายของค้างคาว บินได้รวดเร็วและสูงมาก มีเขาและฟันที่ยาวแหลมตาโตใหญ่ออกไปทางแบบของงู ขนาดตัว รูปร่าง หรือสีเกล็ดนั้นก็แตกต่างกันไปเช่น

ทางด้านตะวันตกจะมีบริเวณลำตัวใหญ่อ้วนกลม หางแหลมยาวคอยาวจมูกแหลมมีหลายแบบแยกไปเช่น Gold Dragonตัวนี้ก็จะมีสีทอง(ตามชื่อ)เป็นมังกรที่จะเรียกได้ว่าอยู่ฝ่ายเทพก็ไม่ผิด, Black Dragon มังกรดำตัวนี้ก็จะมีอำนาจร้ายกาจมาก เป็นของพวกมารส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในถ้ำ,Tiamat เป็นราชาของพวกปีศาจเป็นเจ้าแห่งขุมนรกทั้งเก้า มีห้าหัว, Mist Dragon ก็อยู่แถบน้ำตกใหญ่ๆหรือหน้าผา หรือบริเวณที่มีหมอกลงจัด สีออกโทนขาว,ฟ้า,เทา

ทางด้านตะวันออก ก็ขอกล่าวถึงจีนก่อนเลยว่า จะมีลักษณะลำตัวเรียวยาวต่อไปจนถึงส่วนหาง ศรีษะยาว สีที่พบก็จะมีเขียว และทองบางครั้งแดงก็มี เขาจะมีลักษณะออกไปทางเขากวาง มีหนวดยาวๆสองเส้นส่วนของไทยยังไม่มีแนชัด

















คนแคระ - Dwarf
คนแคระ ในตำนาน เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะเหมือนคนตัวเล็กๆอันนี้ต้องบอกก่อนว่า คำว่าตัวเล็กในที่นี้คือตัวเตี้ยกว่ามนุษย์ถึง1/2เท่า บางตำนานก็กล่าวเช่นนั้นแต่บางตำนานก็บอกว่าเล็กจริงๆนะ ทั้งขนาดตัวและความสูงด้วยแต่อย่านำไปปะปนกับศัพย์ที่ใช้ทางชีววิทยานะ

Dwarfนี้ จะมีอายุยืนยาว ดังนั้นในบางตำนานถึงเกือบทุกตำนานจะเห็นเป็นภาพคนเตี้ยอ้วนป้อม หนวดเครายาวเฟิ้มหน้าตาแก่ๆหน่อยถิ่นที่อยู่อาศัยที่ชอบก็ได้แก่ในถ้ำต่างๆ หรืออุโมงค์ใต้ดิน[บางตำนานว่าคล้ายๆกับว่าเป็นเนินดิน แล้วขุดเข้าไปอยู่ในนั้นน่ะมองไปก็เหมือนเป็นเนินหญ้าที่มีปล่องไฟยื่นออกมาน่ารักดี]บางตำนานก็กล่าวว่าอยู่ในต้นไม้กลวงๆ

Dwarf มีนิสัยอยางหนึ่งที่พบได้ในตำนานทั่วไปคือเป็นผู้ที่ชื่นชอบและสะสมพวกของแร่ธาตุที่มีค่ามาก เช่นเพชรพลอย ทองคำโลหะ เป็นต้น บางตำนานก็กล่าวว่าเป็นนักเหมืองแร่ตัวฉกาจหรือนักประดิษฐ์ประดอยฝีมือเยี่ยม[ไม่ว่าจะเป็นอาวุธ หรือเครื่องของประดับแล้วแต่ตำนานนะคะ] และมีนิสัยที่กล้าหาญ บางครั้งก็ดุดัน มุทะลุเป็นนักรบฝีมือดีเยี่ยม มีความอดทนสูง อาวุธที่มักพบคือขวาน หรือพลวง





เทพยาดา - Elf

เทพยาดา นางฟ้าของติวตอนิค ถ้าเทียบกับกับไทยก็อาจเรียกได้ว่าพวกภูต,พรายส่วนใหญ่คิดว่าเป็นนางไม้ตัวเล็กๆประจำภูเขาหรือป่า แบ่งได้เป็นสองพวกคือGood Elf และ Dark Elf

พวกแรกมีนิสัยขี้เล่นซุกซน ลักษณะของภูตพวกนี้จะคล้ายๆกับคนธรรมดาบางประเภทตัวเท่ามนุษย์ บางประเภทตัวเล็กกระจ้อยร่อยแต่ที่กล่าวเหมือนกันคือจะมีหูที่แหลมยาว และมีปีกคล้ายแมลงปอมีบางประเภทที่เป็นนักรบมีอาวุธประจำกายคือธนูและหอกสามารถยิงธนูและปาหอกได้แม่นยำมากพวกพรายนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่บริสุทธิ์ที่สุดเพราะเป็นพวกที่มาจากเทวดาอีกที มีเวทย์มนตร์เล็กๆน้อยๆ

ส่วนพวกDark Elfนั้นเป็นพวกที่มีลำตัวเตี้ย รูปร่างแคระแกร็นหน้าตาน่าเกลียด ชอบแกล้งมนุษย์โดยเฉพาะเด็ก ชอบทำให้เกิดฝันร้ายและบางพวกนั้นดูดเอาพลังชีวิตของสิ่งมีชีวิตอื่นมาเป็นพลังงานของตน

    เคยเจอว่าบางตำนานได้พูดถึงพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์บาง ของพวกเอลฟ์ที่เกี่ยวข้องกับน้ำ




ครุฑ - Garuda

ครุฑ (หรือ การูด้าในภาษาอื่นๆ)เป็นพญานกที่ควบคุมเหล่าสัตว์ปีกและอาณาเขตบนท้องฟ้ามาจากตำนานอินเดียเก่าแก่ที่แผ่อิทธิพลไปยังประเทศอื่นๆในแถบเอเชียอย่างกว้างขวาง

ครุฑนั้นจะมีลักษณะเป็นพญานกขนาดใหญ่ จงอยปากแบบนกอินทรีย์ตาโตกลมใหญ่ มีปีกที่กว้างและใหญ่มาก ส่วนของศีรษะและลำตัวด้านล่างเป็นนกมีลำตัวส่วนบนถึงกลางลำตัวเป็นแบบมนุษย์ที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ(ชายฉกรรจ์)

พละกำลังอำนาจก็มีมาก แรงของปีกไม่ต้องพูดถึงจงอยปากแข็งแรงขนาดหิ้วพญาช่างสารได้เป็นตัวๆ ฉลาดและมีปัญญาสูงส่งแต่อุปนิสัยค่อนไปทางใจร้อน ดุดัน ฉุนเฉียว
รักและหยิ่งใยศักดิ์ศรีของตนมาก

    








กริฟฟิน - Griffin
กริฟฟิน เป็นสัตว์ในเทพนิยาย ร่างกายเป็นครึ่งอินทรี ครึ่งสิงโตโดยส่วนหัวและปีกเป็นอินทรี ส่วนตัวเป็นสิงโต และมีหางเป็นงูบางจำพวกก็มีหางของสิงโต

ตามตำนานแล้ว กริฟฟินเป็นสัตว์เทพผู้พิทักษ์เหมืองทองคำ(ตัวจึงออกสีทองเกือบทั้งตัว)และทรัพย์สมบัติทั้งหลายแหล่ที่เป็นทองและเป็นผู้ลากรถม้าของพระอาทิตย์(อพอลโล) กรงเล็บแหลมคมดุร้ายแต่เชื่องต่อเจ้าของ เรื่องพละกำลังและความไวก็ไม่เป็นสองรองใคร 




เพกาซัส - Pegasus

เพกาซัส เป็นม้าขาว มีปีกคล้ายนกออกมาจากกลางหลัง จากตำนานกรีกโบราณ เล่ากันว่าเกิดมาจากเลือดของเมดูซ่าซึ่งโดนตัดหัวโดยเพอร์ซีอุส เป็นม้าสีขาวบริสุทธิ์ มีความไวมากสามารถเดินทางจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งได้อย่างรวดเร็ว(กว่าคองคอร์ดอีก) เป็นม้าคู่กายของแบลาโรฟอน เมื่อแบลาโรฟอนขึ้นขี่เพกาซัสเมื่อใด เมื่อนั้นเขาจะหายตัวได้ เขาและเพกาซัสได้ร่วมกันปราบสัตว์ร้ายอย่าง Chimera ลงอย่างง่ายดาย




ฟีนิกส์ - Phoenix

ฟีนิกส์ เป็นสิ่งมีชีวิตที่คล้ายนกปรากฏในตำนานของหลายๆชาติในลักษณะที่คล้ายกันแต่แตกต่างกันในบางรายละเอียด ชื่อนี้ได้ระบุขึ้นในตำนานของพวกอียิปต์โบราณก่อนในฐานะของสัตว์เทพในตำนานซึ่งคู่ควรแก่การบูชา ยกย่อง เคารพ เกี่ยวข้องกับเทพแห่งไฟ ดังนั้นจะสังเกตได้ว่าขนนกของฟีนิกส์นั้นจะออกเป็นประกายเหลืองทองคล้ายเปลวไฟ บ้างก็ว่าปกคลุมด้วยแปลวไฟทั้งตัวทีเดียว 

นกฟีนิกส์นี้เป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นอมตะ มีชีวิตยั่งยืนนิรันดร์(จะไปคล้ายกับนกหงศ์หยกของตำนานจีน ที่เชื่อว่าคู่กับมังกรไง อีกอย่างคือนกหงส์หยกของจีนมีลักษณะคล้ายนกฟีนิกส์มากจนคิดว่าน่าจะเป็นตัวเดียวกัน แต่แยกออกไปตามความเชื่อของแต่ละภูมิภาค) 

ขนาดของนกฟีนิกส์นี้จะมีขนาดเท่านกอินทรีย์ตัวโต จงอยปากและส่วนขาเป็นสีทองประกาย ขนสีแดงถึงเหลืองทอง มีเสียงร้องที่ไพเราะดังเสียงดนตรี เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอายุเป็นอมตะ รูปร่างสวยสง่างาม บางครั้งหยิ่งผยอง บางครั้งเปี่ยมด้วยความเป็นมิตร 

บางตำนานเล่าว่านกนี้สามารถฟื้นชีวิตให้กับผู้ตายได้ และสามารถฟื้นพลังทั้งหมดให้กลับสู่ปกติได้ เนื่องจากเป็นสัตว์เวทย์ตัวหนึ่งภายใต้เทพแห่งไฟบางครั้งจะพบว่าสามารถใช้มนตร์ไฟได้ 

ฟีนิกซ์นี้เมื่อหมดอายุขัยลงก็จะสลายตัวเองกลายเป็นขี้เท่า และฟื้นคืนชีพกลับมาเกิดใหม่จากกองขี้เถ้าเดิมนั่นเอง 




ไซเรน - Siren

ไซเรน จากตำนานกรีก เป็นสิ่งมีชีวิตครึ่งนกครึ่งผู้หญิง (พบบ่อยในเกมแฟนตาซีต่างๆ) ได้กล่าวถึงในมหากาพย์OdysseyของHomerและเรื่องของJason and the Argonauts(เจสันกับขนแกะทองคำ) 

ลักษณะจะคล้ายๆกับนางเงือกแต่เปลี่ยนส่วนปลาเป็นนก Sirenจะมีศีรษะและส่วนตัวที่เหนือเอวขึ้นไปเป็นผู้หญิง ส่วนล่างลงมานั้นจะเป็นนกเลย บางตำนานว่ามีปีกและแขน(ติดกันเป็นส่วนเดียว) บางตำนานมีแต่ปีก ไม่มีแขน ส่วนหูนั้นก็เหมือนจะยื่นยาวออกมาแบบภูตทั่วไป แต่มีขนนกปกคลุม 

Sirenจะอาศัยอยู่ตามโขดหิน หรือเกาะท่ามกลางทะเล หรือแม่น้ำใหญ่ ส่วนใหญ๋จะปรากฏตัวช่วงกลางคืนที่ฟ้ามืดมิด หรือยามเช้าที่หมอกลงจัด 

ตามตำนาน Siren สามารถร้องเพลงได้หวานและไพเราะที่สุด และเสียงเพลงของเธอนั้นสามารถทำให้มนุษย์หลงและไล่ออกตามหาเธอ(บางครั้งจนคลุ้มคลั่ง) Sirenใช้เสียงเพลงของเธอหลอกล่อนักเดินเรือและชาวประมงทั้งหลายมาหา และกลายเป็นเหยื่อของพวกเธอ (ไม่ต้องเขียนมากก็คงจะจินตนาการได้ว่า ฟันเธอแหลมคม และนิสัยโหดเพียงใด [น่ากลัว~]) 

บางตำนาน(นอกจากของHomer) ได้กล่าวไว้ว่า ไซแรนเป็นเพื่อนร่วมเดินทางของPersephone และบางตำนานยังกล่าวว่า ไซเรนนั้นเป็นลูกสาวของเทพแห่งแม่น้ำหรือทะเลอะไรซักอย่าง 



โทลล์ - Troll (เคยเจอในเรื่อง แฮร์รี่ พอตเตอร์ ภาค 1)แต่ดั้งเดิมทีจากตำนานของชาวสแกนดิเนเวียน พวกโทรว์ เป็นอสูรกายตัวมหึมา ปร่างใหญ่โต สูงกว่ามนุษย์ทั่วไปหลายเท่า มีรูปร่างคล้ายคนคือสันหลังตั้งฉากพื้น มีแขนขาเหมือนคน แต่หน้าตาหน้าเกลียด หน้ากลัวแบบสัตว์ประหลาดฝรั่งขนานแท้ หน้าตานั้นยังดุร้าย เหี้ยมโหด 

มักจะกล่าวถึงว่ามีอำนาจมนต์บางอย่างติดตัวด้วย แต่ไร้อารยธรรม และที่สำคัญเป็นอันตราย และศัตรูตัวฉกาจของมนุษย์ บางครั้งพบว่ากินมนุษย์เป็นอาหารก็มี 

พวกมันจะมีถิ่นอาศัย และอาณาบริเวณของตัวเองที่แน่นอน บางตำนานว่า ถ้ำใต้ดินขนาดใหญ่ หรือปราสาทของมันเอง โทรว์จะออกลาดตระเวนรอบเขตตนเอง รวมทั้งอาละวาดไล่ฆ่า ทำลายสิ่งต่างๆ รวมทั้งหาอาหารเวลากลางคืนเท่านั้น เพราะตัวมันไม่สามารถทนต่อแสงแดดได้ เมื่อพบแสง ร่างกายจะถูกแผดเผาอย่างรุนแรง (ระเบิดได้เลย) และกลายเป็นหินในที่สุด 

แต่ในตำนานยุคต่อมา โทรว์ได้ออกมาในลักษณะคล้ายLeprechaunคือ ตัวเล็กๆ เฝ้าสมบัติล้ำค่า แต่มีข้อต่างคือ ยังคงดุร้าย น่ากลัว (คิดว่า จะออกไปทางพวกOrc หรือ Goblinมากกว่า) 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น